พลังงานลม ( Wind Energy )
พลังงานลมเกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิหรือความกดดันของชั้นบรรยากาศที่ดูดซับพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ไม่เท่ากัน ลมจึงเป็นพลังงานรูปหนึ่ง มีพลังในตัว อาจทำให้บ้านเรือนพัง ต้นไม้โค่น สิ่งต่างๆ ล้ม หรือปลิวไปตามลม ในสมัยโบราณมนุษย์ได้ใช้ลมในการเดินเรือใบ เรือสำเภา หากไม่มีน้ำมันใช้จริงๆ อาจต้องหันมาใช้พลังงานลมประกอบกับพลังงานรูปอื่นๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ หรือไฟฟ้า ประเทศไทยมีการพัฒนาด้านการนำพลังงานลมมาใช้ประโยชน์น้อย เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศไทยมีปริมาณลมไม่สม่ำเสมอตลอดปี ที่จะสามารถผลิตพลังงานขนาดใหญ่ได้ คือมีอัตราเร็วลมเฉลี่ยต่ำ และยังอาจมีพายุแรงทำให้กังหันลมเสียหายได้ แต่มีบางพื้นที่ เช่น บริเวณชายฝั่งทะเล ที่มีปริมาณลมสม่ำเสมอ ทำให้สามารถนำพลังงานมาใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้ โดยความเร็วลมที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้งานต้องมีความเร็วเฉลี่ยอย่างน้อย 7.0 เมตร/วินาที ในประเทศไทยมีการใช้กังหันลมหลายแบบในการสูบน้ำ การใช้กังกันลมต้องพิจารณาถึงพลังงานลมที่ได้รับ ณ ที่ติดตั้ง และความคงทนถาวรของตัวกังหัน
พลังงานลมเกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิหรือความกดดันของชั้นบรรยากาศที่ดูดซับพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ไม่เท่ากัน ลมจึงเป็นพลังงานรูปหนึ่ง มีพลังในตัว อาจทำให้บ้านเรือนพัง ต้นไม้โค่น สิ่งต่างๆ ล้ม หรือปลิวไปตามลม ในสมัยโบราณมนุษย์ได้ใช้ลมในการเดินเรือใบ เรือสำเภา หากไม่มีน้ำมันใช้จริงๆ อาจต้องหันมาใช้พลังงานลมประกอบกับพลังงานรูปอื่นๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ หรือไฟฟ้า ประเทศไทยมีการพัฒนาด้านการนำพลังงานลมมาใช้ประโยชน์น้อย เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศไทยมีปริมาณลมไม่สม่ำเสมอตลอดปี ที่จะสามารถผลิตพลังงานขนาดใหญ่ได้ คือมีอัตราเร็วลมเฉลี่ยต่ำ และยังอาจมีพายุแรงทำให้กังหันลมเสียหายได้ แต่มีบางพื้นที่ เช่น บริเวณชายฝั่งทะเล ที่มีปริมาณลมสม่ำเสมอ ทำให้สามารถนำพลังงานมาใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้ โดยความเร็วลมที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้งานต้องมีความเร็วเฉลี่ยอย่างน้อย 7.0 เมตร/วินาที ในประเทศไทยมีการใช้กังหันลมหลายแบบในการสูบน้ำ การใช้กังกันลมต้องพิจารณาถึงพลังงานลมที่ได้รับ ณ ที่ติดตั้ง และความคงทนถาวรของตัวกังหัน
(รุปภาพกังหันลมสูบน้ำ)
การใช้พลังงานลมนับว่าประหยัด และปลอดภัยกว่าการใช้พลังงานในรูปแบบอื่นอีกหลายประเภท มีผู้ประมาณว่าพลังงานลมที่มีอยู่ทั่วโลกจะสามารถนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่าปริมาณที่ใช้อยู่ในปัจจุบันถึง 13 เท่า ถ้าได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้อย่างเพียงพอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น