กระบวนการพลังงานในสิ่งมีชีวิต

กระบวนการพลังงานในสิ่งมีชีวิต
         การเปลี่ยนแปลงพลังงานในสิ่งมีชีวิตที่สำคัญมีอยู่ 2 กระบวนการด้วยกันคือ การสังเคราะห์ด้วยแสง และการหายใจ กระบวนการทั้ง 2 นี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงพลังงานภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตที่ทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถดำรงอยู่ได้ การสังเคราะห์ด้วยแสงนั้นเป็นกระบวนการที่พิชนำพลังงานจากแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานเคมีเก็บไว้ในโมเลกุลของอาหารและในระหว่างเกิดกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงนั้น ก็จะเกิดการปลดปล่อยพลังงานออกสู่สิ่งแวดล้อมในกระบวนการหายใจขึ้นด้วยพร้อมกัน เพื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาบางอย่างขึ้นในเซลล์

1. กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง การสังเคราะห์ด้วยแสงเกิดขึ้นเมื่อแสงจากดวงอาทิตย์ถูกดูดซึมไว้โดยคลอโรฟิลล์ในพืชสีเขียว แล้วพลังงานแสงจากดวงอาทิตย์จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานเคมีเก็บไว้ในรูปโมเลกุลของน้ำตาล เช่น กลูโคส ซึ่งพืชจะได้ใช้น้ำตาลเหล่านี้ไปสังเคราะห์ สร้างเป็นคาร์โบไฮเดรต เช่น ซูโครส แป้ง และเซลลูโลสต่อไป กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง นอกจากจะต้องอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์แล้ว ยังต้องอาศัยคาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำเป็นปัจจัยสำคัญด้วย และในการเกิดกระบวนการนี้จะทำให้ได้กลูโคสและแก๊สออกซิเจนเป็นผลผลิตออกมา ได้มีการประมาณว่าการเกิดกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงในเวลา 1 ปี จะต้องใช้ธาตุคาร์บอนถึง 200,000 ล้านตัน และปริมาณออกซิเจนที่มีอยู่ในบรรยากาศขณะนั้นจะต้องเกิดจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงนานถึง 2,000 ปี
2. กระบวนการหายใจ เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นในเซลล์ที่มีชีวิตทั้งหมดของพืชและสัตว์โดยสิ่งมีชีวิตหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปทำปฏิกิริยากับสารอาหาร เช่น กลูโคส ทำให้ได้คาร์บอนไดออกไซด์และน้ำเป็นผลผลิต พร้อมกับพลังงานที่ถูกเก็บไว้ในโมเลกุลของกลูโคสจะถูกปดปล่อยออกสู่ระบบนิเวศ
        กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง และกระบวนการหายใจเป็นกระบวนการหายใจเป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีต่างๆ แตกต่างกันออกไปมากมายเป็นกระบวนการที่เกื้อกูลกันในระบบนิเวศ กล่าวคือ การสังเคราะห์ด้วยแสงให้ออกซิเจนแก่ระบบนิเวศ และออกซิเจนที่เกิดขึ้นนี้ก็จะถูกนำไปใช้ในกระบวนการหายใจ ส่วนคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกระบวนการหายใจก็จะถูกนำไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง

(รูปภาพ ความสัมพันธ์ของการสังเคราะห์ด้วยแสง และการหายใจ )